top of page
Search

たなかの物語

  • Miko Hanade
  • Aug 5, 2017
  • 2 min read

*素晴らしい夜を。。。 อีกวันหนึ่งที่สุดแสนจะธรรมดาของผมได้ผ่านไป ผมชื่อธนากร อยู่ชั้นม.5 โรงเรียนมัธยมปลาย xx เพราะผมเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ใครๆก็มักจะเรียกผมว่า “ทานากะ” ครับ วันนี้เพื่อนเรียกผมให้มาช่วยวางแผนเตรียมรับน้องห้องในสุดสัปดาห์ที่จะถึง ทำให้ผมต้องกลับอพาร์ทเมนต์ตอนหกโมงครึ่ง ซึ่งช้ากว่าปกติมากสำหรับผม แต่ผมก็เต็มใจที่จะช่วย เพราะผมอยากให้งานออกมาดีที่สุดโดยที่มีผมเป็นส่วนหนึ่งของมันด้วยครับ เพียงแค่คิดก็รู้สึกเต็มตื้นขึ้นมาแล้ว “ยิ้มอะไรอยู่คนเดียวน่ะ ตันคุง” “อะ...หือ? ก็แค่รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอน้องๆอีกน่ะโทโมะ” คนที่ทักผมเมื่อครู่คือ ‘ทอม’ เพื่อนสนิทผมเอง เขามักจะกลับบ้านทางเดียวกับผมทุกวัน ดูท่าวันนี้ผมจะแสดงออกทางสีหน้ามากกว่าปกติสินะ... “เราว่านะ ตันคุงไม่ได้ตื่นเต้นอย่างเดียวหรอก” “หา?” “คงจะตื่นเต้นที่จะได้เจอกับเธอคนนั้นมากกว่าใช่มั้ยล่ะ ฮ่าๆ” “ม...ม...ไม่ใช่สักหน่อย!!” ผมรู้สึกได้ว่าใบหน้าของผมร้อนวาบขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดเลยว่าไม่ใช่เพราะสภาพอากาศที่ร้อนระอุเช่นวันนี้ ถูกแล้วครับ โทโมะเดาใจผมไม่ผิดเลย ผมแอบชอบเธอคนนั้นมาตั้งแต่ผมยังอยู่ม.4 ตอนงานโอเพนเฮาส์เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่แหล่ะ และในวันรับน้องที่กำลังจะมาถึงนี้ ผมตั้งใจจะบอกความรู้สึกนี้กับเธอ “ฮั่นแน่! ทั้งหน้าทั้งหูแดงไปหมดแล้วนะตันคุง” “อือ...” ผมไม่ชอบที่เขารู้ใจผมไปเสียทุกเรื่องเลยแฮะ แรกๆ ผมก็ไม่คิดอะไรมากนักหรอก แต่ในเทอมที่ผ่านๆมา ผมก็ได้รู้ว่า ‘เขาอ่านใจผมได้’ ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าเขาอ่านใจผมได้นั้น ผมก็ไม่อยากให้เขารู้เรื่องที่ผมชอบน้องเขาอยู่ดี “ถ้าอยากสารภาพรักกับเขาก็พูดไปเลยสิ เราอยู่ข้างนายเสมอนะ” “ขอบใจนะโทโมะ เราก็อยากให้มันผ่านไปได้ด้วยดีแหล่ะนะ... ว่าแต่ นายได้ซื้ออะไรให้น้องรหัสนายยังล่ะ?” “อุหวา!! ลืมสนิทเลย! สงสัยต้องรีบไปซื้อเย็นนี้ซะแล้วสิ” “จะไปซื้อที่ไหนล่ะ?” “ไม่รู้สิ แต่ไม่ต้องห่วงเราหรอก ยังไงก็ซื้อทันอยู่แล้ว” “งั้นเหรอ...” “อื้อ! เอาเป็นว่า เดี๋ยวเราไปส่งนายที่ BTS ก่อนค่อยกลับมาซื้อที่มาบุญครองละกัน” “ไม่ต้องหรอกน่า เราเกรงใจ” “เอาเถอะน่า ไม่เป็นไรจริงๆ” “นายพูดเองนะ โอเค” “เยี่ยม!!!” ขนาดธุระของตัวเองยังจัดการไม่เสร็จแต่ยังมาเป็นห่วงคนอื่นแบบนี้ โทโมะนี่เป็นคนดีจริงๆ ผมดีใจที่มีเขาเป็นเพื่อนของผมจัง และไม่ทันไร พวกเราก็มาถึง BTS “เอาล่ะ เราส่งนายแค่นี้นะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้” “อือ ขอบใจที่อุตส่าห์เดินมาส่งนะ นายเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆเลย ถ้างั้นเราไปก่อนนะ またね。” “じゃあね。。。เราไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่นายคิดหรอก ทานากะ” -------------------------------------------------------------------------------------------------- ผมยืนรอรถไฟฟ้าอยู่กว่า 10 นาทีแล้ว ไม่รู้ว่าดีเลย์หรืออะไร แต่ผม ‘รู้สึก’ ได้ถึงเค้าไอแปลกๆที่ผมเจอทุกวัน “เค้าไอแห่งความตาย” หลายคนอาจจะคิดว่า การมีเซนซ์ในเรื่องพรรค์นี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว ผมสามารถจับเค้าไอแห่งความตายได้ตั้งแต่ผมมาเรียนที่นี่ อธิบายง่ายๆ ผมสามารถทำนายได้ว่า บริเวณที่ผมอยู่ใกล้ๆนั้นมีคนที่ชะตากำลังจะถึงฆาตอยู่ แต่ผมก็ระบุเวลาได้ไม่ค่อยชัดเจนหรอกครับ 19.00 น. ผมยังคงอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้า ได้แต่เฝ้าถามตัวเองว่าเมื่อไหร่รถจะมา แน่นอน มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ผมจึงหยิบโทรศัพท์ของผมขึ้นมาพร้อมกับเสียบหูฟัง เลื่อนหน้าจอไปหา Youtube และกดเล่นเพลย์ลิสต์แบบออฟไลน์ *‘すべての始まりを。。。’ (อยากจะให้เธอได้ลองนึกย้อนไป...) ผมนึกเนื้อเพลงที่ผมเรียบเรียงเป็นภาษาไทยคลอไปพร้อมกับเพลงพลางๆ รถไฟฟ้าก็มาถึงพอดี ผมก้าวขึ้นขบวนรถ และกวาดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง ‘เป็นค่ำคืนที่งดงามจริงๆ’ *‘。。。素晴らしい夜を見せて?’ ตูม!!! เสียงดังลั่นไปทั่วรถไฟฟ้า ผมพยายามมองหาต้นเสียง แต่เสียงที่ได้ยินมันดังเกินกว่าจะเป็นเสียงของตก หรือคนหกล้ม ผู้โดยสารคนอื่นก็เป็นเช่นเดียวกับผม ทำให้เสียงจอแจเริ่มดังมาตลอดทาง ในที่สุด ผมก็มาถึงสถานีปลายทาง ทันทีที่ผมเดินลงจก BTS ผมก็ได้ยินเสียงหวอรถพยาบาลกำลังวิ่งผ่านไป (ถ้างั้น... เสียง ‘ตูม’ เมื่อกี้คือเสียงรถชนด้านล่างรถไฟสินะ... ) ผมคิดแล้วรีบมุ่งกลับอพาร์ทเมนต์ เกือบทุกครั้งที่ผมเดินกลับจากเรียนหนังสือ ผมจะรู้สึกถึงเท้าที่หนักอึ้ง แต่วันนี้มันกลับเบาอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะความตื่นเต้นที่จะได้เจอกับ ‘เธอ’ อีกครั้งก็เป็นได้ พอผมมาถึงห้อง ผมฟุบลงกับเตียง และผลอยหลับไปในที่สุด -------------------------------------------------------------------------------------------------- 5.00 น. ในวันต่อมา ผมตื่นขึ้น และพบว่าผมยังม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อคืน ผมจึงรีบลุกออกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำในทันที กว่าจะแต่งตัวเสร็จก็ตีห้าครึ่งแล้ว (ตายล่ะ...จะไม่ทันแล้ว) ผมรีบกระวีกระวาดออกจากอพาร์ทเมนต์ตรงไปยัง BTS ดังเช่นทุกวัน แต่บางอย่างดูผิดไป ทั้งที่ผมออกแรงวิ่งขนาดนี้ กลับไม่มีอาการกระหืดกระหอบ แต่ใครจะสนล่ะ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ผมมุ่งต่อไปจนถึงสถานี และตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า ณ ทางขึ้นสถานีนั้นถูกป้ายขนาดมหึมาที่เขียนว่า ‘ขออภัย รถไฟฟ้าระบบบีทีเอสปิดเพื่อซ่อมแซม’ ขวางไว้อยู่ พระเจ้า! ผมจะไปโรงเรียนยังไงนี่!? ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว (ถ้าไปด้วย BTS ไม่ได้ ก็ไปรถเมล์สิ!) ว่าแล้วผมก็แจ้นไปหาป้ายรถเมล์ในทันที โชคดีไปอีกที่สายที่จะไปถึงเตรียมมาถึงพอดีกับเวลาที่ผมไปถึง ผมกระโดดขึ้นรถ และมองหาที่นั่ง แต่ดูท่าว่าจะเต็มหมดทุกที่นั่งเสียแล้ว (คงต้องยืนสินะ...) เมื่อรถเคลื่อนออกไป ผมล้วงกระเป๋เงินเพื่อหาเศษสตางค์เตรียมให้กระเป๋ารถเมล์ ผมยืนรอให้เขามาเก็บเงินผม แต่...เขาดูเหมือนว่ามองไม่เห็นผมอย่างไรอย่างนั้น (สงสัยจะต้องเดินไปหาเขาเองล่ะมั้ง...) ผมเดินไปหากระเป๋ารถเมล์ พร้อมกวาดสายตาออกไปนอกตัวรถ ปรากฏว่าอีกไม่กี่เมตรจะถึงป้ยรถเมล์หน้าโรงเรียนแล้ว ผมจึงล้มเลิกความคิดที่จะจ่ายเงินแล้วเดินลงจากรถไป ปกติผมจะมานั่งทานอาหารเช้าที่โรงใหญ่ฯทุกวัน แต่วันนี้ผมกลับไม่รู้สึกหิวอย่างทุกที ผมเลยตัดสินใจเดินขึ้นตึกเพื่อไปเก็บกระเป๋า แต่ทว่า... !!! บนขั้นพักที่มีกระจกให้นักเรียนส่องเพื่อตรวจความเรียบร้อยนั้น กลับไม่ปรากฏเงาสะท้อนของผม! ผมรีบเดินไป แล้วเอามือสัมผัสที่กระจกเพื่อให้แน่ใจว่าผมไม่ได้ตาฝาด (ม...ไม่จริงน่า... เกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่...) ในตอนนั้นเอง ผมก็ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังเดินขึ้นตึกมา ผมเลยหันไปมองเจ้าของเสียงฝีเท้านั้น (โทโมะ!!) “ตันคุง?” (โทโมะมองเห็นเราใช่มั้ย?) “เห็นสิ ทำไมอ่ะ?” ผมชี้ไปที่กระจกซึ่งไร้เงาสะท้อนของผม เช่นเดียวกัน โทโมะหน้าซีดเผือกเหมือนผมในขณะนี้ “!!! ตันคุง นี่มันอะไรกันน่ะ?!” (เราก็ไม่รู้เหมือนกัน...) “ทอม ยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ?” “อ๊ะ!? เอ่อ...คือ...อ้อ! มาส่องกระจกน่ะ แหะๆ...” “งั้นเหรอ? ก็แล้วไป ว่าแต่ว่า ทอมได้อ่านหนังสือพิมพ์เมื่อเช้าหรือเปล่า?” ผมเงยหน้าเพื่อฟังสิ่งที่เพื่อนของโทโมะกำลังจะเล่า “เห็นมันเขียนว่า ‘BTS ระเบิดดับ xxx ราย คาดว่าเป็นรายเดียวกันกับคนปล้นธนาคารชื่อดังเมื่อเร็วๆนี้’ แหล่ะ น่ากลัวจัง” “น...นั่นสิ...” ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่หน้าของโทโมะที่เคยซีดอยู่แล้ว ตอนนี้มันยิ่งซีดลงไปมากกว่าเดิมอีก “ทอม เป็นอะไรหรือเปล่า? หน้านายซีดมากเลยนะ” “ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องห่วงเราหรอก นะ” “แน่ใจนะ? ถ้างั้นเดี๋ยวค่อยเจอบนห้องละกัน” “อือ” (โทโมะ...) “ตันคุง ได้ยินที่เขาพูดหรือเปล่า” (อ่า...) ผมตายเพราะระเบิด BTS เมื่อคืนสินะ... แต่ทำไมผมกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดบ้างเลย “ตันคุง เมื่อคืนนายได้ยินเสียงระเบิดอะไรบ้างหรือเปล่า?” (อะ...ได้ยินนะ! เราจำได้ดีเลย มันดังขึ้นหลังจากที่เพลง EveR ∞ LastinG ∞ NighT เล่นถึงท่อนที่ร้องว่า ‘จะให้เธอได้เห็นค่ำคืนที่แสนวิเศษนั้นเอง’ พอดี... เดี๋ยวก่อนนะ ถามทำไม?)

“เมื่อคืนที่ BTS ระเบิด...เป็นฝีมือของเราเองแหล่ะ!” ผมถึงกับสะดุ้งเพราะน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของโทโมะ (ไม่เอาน่า ไม่ตลกเลยนะ) “คิดว่าเราลอเล่นหรือไง ทานากะ” (แน่อยู่แล้วสิ เราก็อยู่แค่ม.5 เองนะ จะไปวางระเบิดเป็นกันได้ยังไงล่ะ) ผมหัวเราะกลบเกลื่อน โทโมะเขาเป็นคนดีจะตาย จะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไงกัน แต่รอยยิ้มของผมนั้นก็ได้หายไปในทันทีหลังจาก... “อายุของฉันมันควรจะอยู่ปี 1 แล้วด้วยซ้ำ นายไม่เคยรู้บ้างเลยหรือยังไง...ทำไมนายไม่เชื่อเรา?!” (ไม่จริง...) “เราคำนวนเวลาแล้วเข้าไปโยนระเบิดเวลาบนราง BTS ขบวนที่รุ่นน้องที่นายชอบกำลังจะขึ้น...” (โกหก...) “ใช่แล้ว...คนที่จะฆ่ารุ่นน้องของนาย ก็คือฉันคนนี้นี่แหล่ะ!!!” “ไม่!!!” ผมพุ่งหมัดเข้าหน้าโทโมะอย่างจังจนเขาเสียหลักตกบันได (ผมตายแล้วไม่ใช่เหรอ? ท...ทำไมถึง......)

ผมรู้สึกถึงมือที่สั่นระริก ผมรู้สึกถึงเสียงหัวใจที่ดังขึ้นทุกที ผมรู้สึกถึง..."การมีชีวิตอยู่" นี่ผม...ยังไม่ตายงั้นเหรอ... แล้วที่ผมรู้สึกตัวเบากว่าปกติ...ที่กระเป๋ารถเมล์ไม่เห็นผม...ที่เพื่อนของโทโมะไม่ทักผม...มันหมายความว่ายังไงกัน...

"กรี้ดดดด!!!"

"เกิดอะไรขึ้น?!"

"นั่นสิ เกิดอะไร--- เหวอออออ"

"เอะอะโวยวายอะไรกันนักเรียน?"

"ม...มีคนตกบันไดลงมาค่ะครู..."

"ไหน.....ค...คุณพระช่วย!!"

"อะไรกันน่ะครับ...? เดี๋ยวนะ...ทอมเหรอ?!?!!"

ทันทีที่มีนักเรียนคนหนึ่งเห็นร่างของโทโมะ ก็มีนักเรียนและคุณครูคนอื่นกรูเข้ามาเรื่อยๆจนตอนนี้มันดูวุ่นวายไปหมด ราวกับเหตุการณ์เมื่อวานหลังจากระเบิดได้แฟลชแบ็คกลับมาอีกครั้ง

"ตอนนี้คงต้องพาไปโรงพยาบาลก่อนแล้ว มีนักเรียนคนไหนรู้จักเพื่อนคนนี้บ้างมั้ย?"

"ผมครับ"

"ติดต่อผู้ปกครองของเขาให้ครูได้มั้ย?"

"อ...คือ...ไม่มีใครเคยเห็นหน้าพ่อแม่ของเขาเลยครับ..."

"หมายความว่ายังไง?"

"ตอนงานประชุมผู้ปกครอง ก็มีแค่เขาคนเดียวที่ไม่ได้มากับพ่อแม่หรือญาติของเขาครับ..."

"พระเจ้า...ยังไงตอนนี้ก็ติดต่อโรงพยาบาลก่อนแล้วกัน"

โทโมะ...ผมขอโทษ...

อีกครั้ง ผมรู้สึกถึงเค้าไอแห่งความตายเช่นเดียวกับเมื่อวาน แต่...มันรุนแรงกว่าเป็น 10 เท่า ย...อย่าบอกนะว่า...

"โทโมะ!! นายจะตายไม่ได้นะ!!!"

"ใครน่ะ?!"

ผมรีบวิ่งลงไปหาร่างของโทโมะ แต่...

ผลักกก

ผมสะดุดขาตัวเองตกบันไดลงไปนอนอยู่ข้างๆโทโมะ

เจ็บชะมัด...

ผมหันหน้าไปมองร่างโทโมะที่จมกองเลือดอยู่

"กรี้ดดดดดดด"

"มีใครไม่รู้ตกลงมาอีกแล้ว!!!"

"ท...ทานากะ!?"

"อะไรกันเนี่ย..."

ถ้าให้อธิบายคงจะยาวแหล่ะ แรงขยับตัวตอนนี้ยังแทบไม่เหลือเลย ขอโทษนะทุกคน

อา...ปวดหัวเป็นบ้า

"ทานากะ!! ทำใจดีๆไว้นะ!!"

ภาพที่ผมเห็นเริ่มเลือนราง เสียงทุกคนที่จอแจเริ่มอื้ออึงจนฟังไม่รู้เรื่องและเบาลงไปเรื่อยๆ คงใกล้หมดสติแล้วสินะ...ตัวผมเนี่ย...

ผมเอื้อมมือไปแตะที่ไหล่ของโทโมะ และเอ่ยคำพูดสุดท้ายก่อนหลับไป

"ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาที่ผ่านมานะ"

*อ้างอิงเนื้อเพลงจากเพลง EveR ∞ LastinG ∞ NighT ของ ひとしずくxやま*

Comments


Featured Review
Tag Cloud

Mii no monogatari by Miko Haruno

Wizardess heart happy ending - NTT Solmare
00:00 / 00:00
bottom of page